ข้ามไปเนื้อหา

วันนั้น...วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
วันนั้น...วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู
กำกับโยะชิฟุมิ คนโด
บทภาพยนตร์ฮะยะโอะ มิยะซะกิ
อำนวยการสร้างโทะชิโอะ ซุซุกิ
นักแสดงนำโยะโกะ ฮนนะ
อิเซ ทะกะฮะชิ
ชิเงะรุ มุโระอิ
ทะกะชิ ทะชิบะนะ
เคย์จู โคะบะยะชิ
ตัดต่อทะเกะชิ เซะยะมะ
ดนตรีประกอบยูจิ โนะมิ
บริษัทผู้สร้าง
ผู้จัดจำหน่ายโทะโฮะ (ญี่ปุ่น) วอลต์ดิสนีย์พิกเจอส์ (สหรัฐอเมริกา
วันฉาย
  • 15 กรกฎาคม ค.ศ. 1995 (1995-07-15)
ความยาว111 นาที
ประเทศญี่ปุ่น
ภาษาภาษาญี่ปุ่น

วันนั้น...วันไหน หัวใจจะเป็นสีชมพู (ญี่ปุ่น: 耳をすませばโรมาจิMimi o Sumaseba ; ความหมาย "If You Listen Closely") หรือในชื่อภาษาอังกฤษว่า "Whisper of the Heart" เป็นภาพยนตร์อนิเมะจากสตูดิโอจิบลิ ที่ดัดแปลงจากผลงานมังงะชื่อ เสียงกระซิบจากหัวใจ ของ อาโออิ ฮิอิรางิ

เรื่องย่อ

[แก้]

ตัวละครหลักของ Whisper of the Heart คือเด็กสาวที่ชื่อ ชิซึคุ สึกิชิมะ ผู้ซึ่งเป็นนักเรียนในระดับจูเนียร์ไฮสคูลในเมืองเล็กๆ ใกล้ๆ กับเมืองทามะ ของกรุงโตเกียว เธอมีนิสัยรักการอ่านและการเขียนหนังสือในยามว่าง แต่พ่อแม่ของเธอหวังจะให้เธอใช้เวลากับการบ้านเสียมากกว่า อีกทั้งช่วงเวลาของการสอบเข้าเรียนไฮสคูลก็ใกล้เข้ามาแล้วด้วย เรื่องราวเกิดขึ้นในเมืองเล็ก ๆ แห่งหนึ่งภายใต้บรรยากาศทันสมัยของประเทศญี่ปุ่น ในขณะที่เด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ กำลังตั้งหน้าตั้งตาเตรียมตัวสอบเข้าเรียนต่อในชั้นมัธยมปลาย แต่ชิซึคุ เด็กสาวผู้รักการอ่านเป็นชีวิตจิตใจ กลับเลือกที่จะใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการอ่านหนังสือนวนิยายที่หยิบยืมมาจากหอสมุด และตัวเลขยี่สิบเล่มก็คือเป้าหมายที่สาวน้อยวัยสิบสี่ปีวางไว้สำหรับปิดเทอมครั้งนี้ของเธอ

เมื่อคุณพ่อบอกกับชิซึคุว่าหอสมุดกำลังเปลี่ยนระบบการยืมหนังสือจากที่เคยใช้บัตรเป็นระบบบาร์โค้ด เธอก็นึกอยากหยิบเอาการ์ดกระดาษแข็งที่บันทึกรายชื่อผู้ยืมหนังสือออกมาดู น่าแปลกที่หนังสือทุกเล่มที่เธอเคยอ่านจะมีชื่อของ "เซย์จิ อามาซาว่า" ยืมไปก่อนหน้าเธอทุกครั้ง

สิ่งที่เกิดขึ้นสร้างความประหลาดใจให้ชิซึคุอย่างมาก และทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเฝ้ามองหาชายในจินตนาการของเธอ ขยันอ่านหนังสือ สอบเข้ามัธยมปลาย และเรียนในมหาวิทยาลัยดี ๆ คือเสียงจากสังคมที่กระซิบบอกเยาวชนที่กำลังเติบโต แม้ชิซึคุจะชอบหนังสือนิยายเพียงใด หรือมีพรสวรรค์ในด้านวรรณคดีแค่ไหน ตัวเธอเองก็ไม่สามารถมองข้ามบรรทัดฐานเหล่านั้นและเลือกเดินไปบนเส้นทางที่ตนเองรักได้อย่างสบายใจ

บางที ชีวิตวัยรุ่นอาจจะหนักและน่าปวดหัวเกินกว่าที่เด็กสาวที่ชอบ "ล่องลอยไปในโลกแห่งความฝัน" อย่างเธอก็เป็นได้

แต่แล้วในเช้าวันหนึ่ง "ที่ดูเหมือนจะเป็นวันธรรมดาสำหรับหลาย ๆ คน" ช่วงเวลาแห่งการค้นหาตนเองของชิซึคุก็ได้เริ่มต้นขึ้น

ระหว่างกำลังนั่งอยู่บนรถไฟเพื่อเดินทางไปส่งปิ่นโตให้คุณพ่อที่หอสมุด ชิซึคุก็พบเข้ากับแมวเร่ร่อนตัวอ้วน ท่าทางเมินเฉยไม่แยแสต่อสิ่งรอบข้างของมันทั้งยียวนกวนประสาทแต่ก็ชวนให้น่าสนใจ เธอตัดสินใจติดตามแมวจอมเจ้าเล่ห์ไปเรื่อย ๆ เพื่อค้นหาเป้าหมายของมันซึ่งก็คือร้านขายของเก่า "Earth Shop" ที่ดำเนินกิจการโดยคุณตาท่าทางใจดี และมีรูปสลักแมว "Baron Humbert Von Jikkingen" อันแสนงดงาม

ราวกับโชคชะตาชักพา, หลังจากนั้นไม่นานเธอก็ได้รู้ว่าเซย์จิคุงคนที่เธอตามหาก็คือหลานชายแท้ ๆ ของคุณตาเจ้าของร้านขายของเก่าแห่งนี้นี่เอง

ที่นี่, ชิซึคุได้เห็นแง่มุมลึก ๆ รวมทั้งตัวตนจริง ๆ ที่ไม่เคยเห็นของเซย์จิ สิ่งเหล่านี้มันก็ทำให้หัวใจของเธอพองโตความฝันของเด็กชายที่แน่วแน่ต่อการเป็นช่างทำไวโอลินจุดประกายให้ชิซึคุฮึดสู้ กลับไปฟังเสียงกระซิบจากหัวใจ และลงมือเขียนนวนิยายซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรักมาตั้งแต่ต้นและรักมากที่สุดเพื่อเป็นการพิสูจน์ตัวเองตามความคิดของเธอ

ประสบการณ์ครั้งนี้ทำให้สาวน้อยได้รู้จักตนเอง และสามารถก้าวพ้นวันเวลาแห่งความสับสนไปได้อย่างมั่นคง

ในตอนจบเซย์จิได้ตัดสินใจไปเรียนทำไวโอลินต่อที่อิตาลี และชิซึคุก็ได้มุ่งมั่นกับการเป็นนักเขียน นอกจากนี้เซย์จิยังได้ขอแต่งงาน แล้วให้คำสัญญาว่าเมื่อไปทำตามความฝันของตนได้สำเร็จแล้วจะกลับมาแต่งงานกัน

เครดิต

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]